Tergar ThaiOctober 5
“หากคุณตระหนักรู้ว่า ทุกสิ่งเป็นการแสดงออกของภาวะกระจ่างอันมีมาแต่เดิม เมื่อนั้นสมถภาวนาใดๆ ก็ตามที่คุณปฏิบัติอยู่ ก็จะกลายเป็นธรรมชาติของจิต แม้กระทั่งกับความคิดปกติ เมื่อคุณตระหนักเรื่องธรรมชาติของจิตที่เกิดกับความคิด ความคิดก็จะกลายเป็นธรรมชาติของจิตไป”
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
“If you recognize everything is the manifestation of innate clarity, then whatever shamatha practice that you do becomes nature of mind, even with normal thoughts. When you recognize nature of mind with the thought, thought becomes nature of mind.”
– Mingyur Rinpoche
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
“If you recognize everything is the manifestation of innate clarity, then whatever shamatha practice that you do becomes nature of mind, even with normal thoughts. When you recognize nature of mind with the thought, thought becomes nature of mind.”
– Mingyur Rinpoche
Tergar ThaiOctober 3
“เมื่อเราฝึกปฏิบัติธรรมชาติของจิต เราจะมีความรู้สึกถึงความสมบูรณ์ ความรู้สึกถึงความโอเค ความรู้สึกถึงความน่ารักหรือความเบิกบาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความเมตตาและความกรุณาอันปราศจากความคิด ปราศจากวัตถุ!
แล้วเมื่อเรามองดูผู้อื่น เราจะรู้สึกถึงสายสัมพันธ์ พวกเขามีธรรมชาติของจิต ฉันก็มีธรรมชาติของจิต พวกเขายังมีความรู้สึกถึงความน่ารัก ความรู้สึกถึงความอ่อนหวาน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการมีความเมตตาและความกรุณาที่เกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ”
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
"When we practice the nature of mind, that sense of completeness, that sense of okayness, sense of lovable or joy — these are the love and compassion without concept, without object!
Then, when we look at others, you feel connection: they have nature of mind, I have nature of mind. They also have sense of lovable, sense of sweetness. So that is the beginning of having spontaneous love and compassion.”
– Mingyur Rinpoche
แล้วเมื่อเรามองดูผู้อื่น เราจะรู้สึกถึงสายสัมพันธ์ พวกเขามีธรรมชาติของจิต ฉันก็มีธรรมชาติของจิต พวกเขายังมีความรู้สึกถึงความน่ารัก ความรู้สึกถึงความอ่อนหวาน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการมีความเมตตาและความกรุณาที่เกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ”
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
"When we practice the nature of mind, that sense of completeness, that sense of okayness, sense of lovable or joy — these are the love and compassion without concept, without object!
Then, when we look at others, you feel connection: they have nature of mind, I have nature of mind. They also have sense of lovable, sense of sweetness. So that is the beginning of having spontaneous love and compassion.”
– Mingyur Rinpoche
Tergar ThaiOctober 2
10月份「開心禪」一階「平靜你的心」綫上課程
通過心的訓練, 而轉化我們的生活
禪修可以幫助我們發現內在的平靜與喜樂,减少受習慣性思維、固有的觀點影響, 通過覺知而顯現內在的慈悲和智慧。
▌課程內容:
在這個課程,你除了學會禪修的知識和正確姿勢外, 還會學到超過10種不同的禪修方法和技巧。
未來數月, 我們每周都會舉辦共修課, 學長們會陪伴同學練習,讓智識層面上的理解和體驗融入日常生活。運用禪修中學到的覺知、洞察力, 從容面對生活中各種起起落落的挑戰。
▌日期及時間:2024年10月05-06日(星期六、日)
第一天:10月05日(周六)早上9點-下午5點 (京、港、台時間)
第二天:10月06日(周日)早上9時-下午5點 (京、港、台時間)
▌語言:
課程會播放 咏給.明就仁波切 英語教授的新版影片,附簡體中文字幕;
禪修輔導員以普通話帶領, No English facilitating
▌禪修輔導員:亞洲德噶輔導員
▌籌辦單位:德噶中泰學習小組
課程免費,歡迎所有人士報名參加。
報名鏈接:
https://us02web.zoom.us/webinar/register/WN_hQyYCiMwSMW9ZPdd1fAloA
報名截止日期:10月05日早上8點,或額滿即止
* 課程不提供回放。請先確保自己能兩天全程參與再報名。
* 只有兩天全程出席圓滿課程,才能參加後續共修及晋階課程。
名額有限,先到先得。達到人數限制後,您將會被放在“等待名單”上,有額外的名額時我們會通知您。
如有任何疑問,請點擊亞洲德噶官網https://www.tergarasia.org/?lang=zh-hant右下角的藍色小圖標,給我們的線上客服「德寶」留言。我們的義工會盡快回覆您。
或發郵件致德噶中泰學習小組諮詢服務郵箱:tergarthai@gmail.com
通過心的訓練, 而轉化我們的生活
禪修可以幫助我們發現內在的平靜與喜樂,减少受習慣性思維、固有的觀點影響, 通過覺知而顯現內在的慈悲和智慧。
▌課程內容:
在這個課程,你除了學會禪修的知識和正確姿勢外, 還會學到超過10種不同的禪修方法和技巧。
未來數月, 我們每周都會舉辦共修課, 學長們會陪伴同學練習,讓智識層面上的理解和體驗融入日常生活。運用禪修中學到的覺知、洞察力, 從容面對生活中各種起起落落的挑戰。
▌日期及時間:2024年10月05-06日(星期六、日)
第一天:10月05日(周六)早上9點-下午5點 (京、港、台時間)
第二天:10月06日(周日)早上9時-下午5點 (京、港、台時間)
▌語言:
課程會播放 咏給.明就仁波切 英語教授的新版影片,附簡體中文字幕;
禪修輔導員以普通話帶領, No English facilitating
▌禪修輔導員:亞洲德噶輔導員
▌籌辦單位:德噶中泰學習小組
課程免費,歡迎所有人士報名參加。
報名鏈接:
https://us02web.zoom.us/webinar/register/WN_hQyYCiMwSMW9ZPdd1fAloA
報名截止日期:10月05日早上8點,或額滿即止
* 課程不提供回放。請先確保自己能兩天全程參與再報名。
* 只有兩天全程出席圓滿課程,才能參加後續共修及晋階課程。
名額有限,先到先得。達到人數限制後,您將會被放在“等待名單”上,有額外的名額時我們會通知您。
如有任何疑問,請點擊亞洲德噶官網https://www.tergarasia.org/?lang=zh-hant右下角的藍色小圖標,給我們的線上客服「德寶」留言。我們的義工會盡快回覆您。
或發郵件致德噶中泰學習小組諮詢服務郵箱:tergarthai@gmail.com
Tergar ThaiOctober 1
มีคนมากมายที่พยายามหาวิธีต่างๆ ที่จะเอาตัวเองออกมาเสียจากแบบแผนทางอารมณ์ที่กัดกินเขา หรือไม่ก็พยายามหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด หลายคนหันมาสนใจพุทธศาสนาเพราะเคยอ่านมาบ้าง หรือเคยได้ยินว่าพุทธศาสนามีวิธีเอาชนะความเจ็บปวด ช่วยให้เกิดความสงบและความผาสุก แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจไปตามๆ กัน เพราะสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เมื่อ 2,500 กว่าปีมาแล้ว มิได้เป็นเรื่องของการเอาชนะปัญหา หรือขจัดความรู้สึกเปลี่ยวเหงา ความไม่สบายกายไม่สบายใจ หรือความกลัวที่คอยหลอกหลอนทุกวี่ทุกวัน ตรงกันข้ามพระพุทธองค์ทรงสอนว่า ทางเดียวที่เราจะเข้าถึงอิสรภาพได้ก็ด้วยการอ้าแขนรับเหตุปัจจัยที่ทำให้เราทุกข์
ข้าพเจ้าพอเข้าใจได้ถ้าใครจะรู้สึกท้อเมื่อได้ยินเช่นนี้ สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กและเป็นวัยรุ่น ข้าพเจ้าเองก็มีความวิตกและความกลัวอย่างรุนแรงถึงขั้นที่คิดว่า สิ่งเดียวที่ทำได้คือหนี
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
จากหนังสือ “เบิกบานด้วยปัญญา”
สนใจสั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา
https://www.facebook.com/suanbook
Many of these people have already tried a number of approaches to break through debilitating emotional patterns or find ways to cope with stressful situations. They're attracted to Buddhism because they've read or heard somewhere that it offers a novel method of overcoming pain and attaining a measure of peace and well-being. It often comes as a shock that the teachings and practices laid out by the Buddha twenty-five hundred years ago do not in any way involve conquering problems or getting rid of the sense of loneliness, discomfort, or fear that haunts our daily lives. On the contrary, the Buddha taught that we can find our freedom only through embracing the conditions that trouble us.
I can understand the dismay some people feel as this message sinks in. My own childhood and early adolescence were colored so deeply by anxiety and fear that all I could think of was escape.
– Mingyur Rinpoche
from the book “Joyful Wisdom”
ข้าพเจ้าพอเข้าใจได้ถ้าใครจะรู้สึกท้อเมื่อได้ยินเช่นนี้ สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กและเป็นวัยรุ่น ข้าพเจ้าเองก็มีความวิตกและความกลัวอย่างรุนแรงถึงขั้นที่คิดว่า สิ่งเดียวที่ทำได้คือหนี
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
จากหนังสือ “เบิกบานด้วยปัญญา”
สนใจสั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา
https://www.facebook.com/suanbook
Many of these people have already tried a number of approaches to break through debilitating emotional patterns or find ways to cope with stressful situations. They're attracted to Buddhism because they've read or heard somewhere that it offers a novel method of overcoming pain and attaining a measure of peace and well-being. It often comes as a shock that the teachings and practices laid out by the Buddha twenty-five hundred years ago do not in any way involve conquering problems or getting rid of the sense of loneliness, discomfort, or fear that haunts our daily lives. On the contrary, the Buddha taught that we can find our freedom only through embracing the conditions that trouble us.
I can understand the dismay some people feel as this message sinks in. My own childhood and early adolescence were colored so deeply by anxiety and fear that all I could think of was escape.
– Mingyur Rinpoche
from the book “Joyful Wisdom”
Tergar ThaiSeptember 29
ตอนที่ข้าพเจ้าเดินทางไปบรรยายธรรมในซีกโลกตะวันตกครั้งแรกในปี 1998 ข้าพเจ้าคิดอย่างพาซื่อว่า ผู้คนที่นั่นซึ่งมีความสะดวกสบายทันสมัยเพียบพร้อม น่าจะรู้สึกมั่นใจและพึงพอใจกับชีวิต แต่เปล่าเลย ข้าพเจ้าพบว่า ที่นั่นก็มีความทุกข์มากพอๆ กับที่บ้านเกิดของข้าพเจ้า ผิดกันตรงที่เป็นความทุกข์คนละแบบ และมาจากสาเหตุที่แตกต่างออกไป ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่ามันแปลกมาก “ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น” ข้าพเจ้าถามคนที่เป็นเจ้าภาพ “ทุกอย่างที่นี่วิเศษมาก คุณมีบ้านสวยๆ มีรถดีๆ อาชีพการงานก็ดี แล้วทำไมถึงทุกข์กันขนาดนี้” ข้าพเจ้าพูดไม่ได้เต็มปากว่า คนตะวันตกมีนิสัยเปิดเผยมากกว่าเวลาที่พูดถึงปัญหาของเขา หรือนั่นอาจเป็นเพียงเพราะเผอิญคนที่ข้าพเจ้าถาม เขาก็แค่สุภาพกับข้าพเจ้า แต่ไม่ทันไร ข้าพเจ้าก็ได้รับคำตอบมากมายแบบคาดไม่ถึง
สรุปสั้นๆ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า การจราจรที่ติดขัด ถนนที่คลาคล่ำ การงานที่มีเส้นตาย บิลที่ต้องจ่าย หรือการต้องเข้าแถวยาวๆ ที่ธนาคาร ที่ไปรษณีย์ ที่สนามบิน หรือที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุของความเครียด ความหงุดหงิด ความวิตกกังวล และความโกรธ ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ที่บ้านหรือที่ทำงานเป็นสาเหตุของความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ชีวิตของคนจำนวนมากอัดแน่นไปด้วยกิจกรรม จนถึงขั้นที่ว่าพอหมดวันเขาก็อยากให้โลกนี้ และทุกคนหายหน้าไปสักพัก พอถูไถไปจนหมดวันได้จริงๆ เขาก็ยกขาขึ้นพาด เริ่มจะผ่อนคลาย แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หรือไม่ก็หมาของเพื่อนบ้านเริ่มเห่าเสียงดัง และทันใดนั้นเอง ความรู้สึกอิ่มเอมใจใดๆ ที่เพิ่งจะเริ่มต้นก็มลายหายวับ
เมื่อฟังเขาอธิบาย ข้าพเจ้าเริ่มตระหนักว่าแรงกายแรงใจและเวลาที่พวกเขาทุ่มเทไปกับการสะสม “สมบัตินอกกาย” และพยายามรักษามันไว้ ทำให้เขามีโอกาสน้อยมากที่จะสั่งสม “ทรัพย์ภายใน” เช่น ความกรุณา ความอดทนอดกลั้น ความเอื้อเฟื้อ และความรู้สึกเป็นกลาง ความไม่สมดุลเช่นนี้ทำให้ผู้คนเปราะบาง เป็นโรคร้าย หรือเจ็บปวดรุนแรงทั้งทางกายและทางอารมณ์ ในช่วง 10 กว่าปีมานี้ที่ข้าพเจ้าเดินทางไปสอนการภาวนาและปรัชญาพุทธศาสนา ข้าพเจ้าได้พบเจอผู้คนที่สิ้นหวังเพราะประสบปัญหาชีวิตที่จัดการไม่ได้ บางคนที่ตกงานก็กลัวสุดขีดว่าเขาจะสิ้นเนื้อประดาตัว สูญเสียบ้านช่อง หรือไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง บางคนก็ติดยา หรือมีภาระเรื่องลูกๆ หรือคนในครอบครัวมีปัญหาทางอารมณ์หรือทางพฤติกรรม มีคนจำนวนมากอย่างคาดไม่ถึงที่ง่อยเปลี้ยเพราะภาวะซึมเศร้า เกลียดตัวเอง หรือขาดความเชื่อมั่นในตนเองอย่างรุนแรง
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
จากหนังสือ “เบิกบานด้วยปัญญา”
สนใจสั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา
When I made my first teaching trip to the West in 1998, I naively assumed that with all the modern conveniences available to them, people would be much more confident and content with their lives. Instead, I discovered that there was just as much suffering as I saw at home, although it took different forms and sprang from different sources. This struck me as a very curious phenomenon. "Why is this?" I'd ask my hosts. "Everything's so great here. You have nice homes, nice cars, and good jobs. Why is there so much unhappiness?" I can't say for sure whether Westerners are simply more open to talking about their problems or whether the people I asked were just being polite. But before long, I received more answers than I'd bargained for.
In short order, I learned that traffic jams, crowded streets, work deadlines, paying bills, and long lines at the bank, the post office, airports, and grocery stores were common causes of tension, irritation, anxiety, and anger. Relationship problems at home or at work were frequent causes of emotional upset. Many people's lives were so crammed with activity that finally coming to the end of a long day was enough to make them wish that the world and everybody in it would just go away for a while. And once people did manage to get through the day, put their feet up, and start to relax, the telephone would ring or the neighbor's dog would start barking--and instantly whatever sense of contentment they may have settled into would be shattered.
Listening to these explanations, I gradually came to realize that the time and effort people spend on accumulating and. maintaining material or "outer wealth" affords very little opportunity to cultivate "inner wealth" – qualities such as compassion, patience, generosity, and equanimity. This imbalance leaves people particularly vulnerable when facing serious issues like divorce, severe illness, and chronic physical or emotional pain. As I've traveled around the world over the past decade teaching courses in meditation and Buddhist philosophy, I've met people who are completely at a loss when it comes to dealing with the challenges life presents them. Some, having lost their jobs, are consumed by a fear of poverty, of losing their homes, and of never being able to get back on their feet. Others struggle with addiction or the burden of dealing with children or other family members suffering from severe emotional or behavioral problems. An astonishing number of people are crippled by depression, self-hatred, and agonizing low self-esteem.
– Mingyur Rinpoche
from the book “Joyful Wisdom”
สรุปสั้นๆ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า การจราจรที่ติดขัด ถนนที่คลาคล่ำ การงานที่มีเส้นตาย บิลที่ต้องจ่าย หรือการต้องเข้าแถวยาวๆ ที่ธนาคาร ที่ไปรษณีย์ ที่สนามบิน หรือที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุของความเครียด ความหงุดหงิด ความวิตกกังวล และความโกรธ ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ที่บ้านหรือที่ทำงานเป็นสาเหตุของความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ชีวิตของคนจำนวนมากอัดแน่นไปด้วยกิจกรรม จนถึงขั้นที่ว่าพอหมดวันเขาก็อยากให้โลกนี้ และทุกคนหายหน้าไปสักพัก พอถูไถไปจนหมดวันได้จริงๆ เขาก็ยกขาขึ้นพาด เริ่มจะผ่อนคลาย แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หรือไม่ก็หมาของเพื่อนบ้านเริ่มเห่าเสียงดัง และทันใดนั้นเอง ความรู้สึกอิ่มเอมใจใดๆ ที่เพิ่งจะเริ่มต้นก็มลายหายวับ
เมื่อฟังเขาอธิบาย ข้าพเจ้าเริ่มตระหนักว่าแรงกายแรงใจและเวลาที่พวกเขาทุ่มเทไปกับการสะสม “สมบัตินอกกาย” และพยายามรักษามันไว้ ทำให้เขามีโอกาสน้อยมากที่จะสั่งสม “ทรัพย์ภายใน” เช่น ความกรุณา ความอดทนอดกลั้น ความเอื้อเฟื้อ และความรู้สึกเป็นกลาง ความไม่สมดุลเช่นนี้ทำให้ผู้คนเปราะบาง เป็นโรคร้าย หรือเจ็บปวดรุนแรงทั้งทางกายและทางอารมณ์ ในช่วง 10 กว่าปีมานี้ที่ข้าพเจ้าเดินทางไปสอนการภาวนาและปรัชญาพุทธศาสนา ข้าพเจ้าได้พบเจอผู้คนที่สิ้นหวังเพราะประสบปัญหาชีวิตที่จัดการไม่ได้ บางคนที่ตกงานก็กลัวสุดขีดว่าเขาจะสิ้นเนื้อประดาตัว สูญเสียบ้านช่อง หรือไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง บางคนก็ติดยา หรือมีภาระเรื่องลูกๆ หรือคนในครอบครัวมีปัญหาทางอารมณ์หรือทางพฤติกรรม มีคนจำนวนมากอย่างคาดไม่ถึงที่ง่อยเปลี้ยเพราะภาวะซึมเศร้า เกลียดตัวเอง หรือขาดความเชื่อมั่นในตนเองอย่างรุนแรง
– ท่านมินจูร์ รินโปเช
จากหนังสือ “เบิกบานด้วยปัญญา”
สนใจสั่งซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา
When I made my first teaching trip to the West in 1998, I naively assumed that with all the modern conveniences available to them, people would be much more confident and content with their lives. Instead, I discovered that there was just as much suffering as I saw at home, although it took different forms and sprang from different sources. This struck me as a very curious phenomenon. "Why is this?" I'd ask my hosts. "Everything's so great here. You have nice homes, nice cars, and good jobs. Why is there so much unhappiness?" I can't say for sure whether Westerners are simply more open to talking about their problems or whether the people I asked were just being polite. But before long, I received more answers than I'd bargained for.
In short order, I learned that traffic jams, crowded streets, work deadlines, paying bills, and long lines at the bank, the post office, airports, and grocery stores were common causes of tension, irritation, anxiety, and anger. Relationship problems at home or at work were frequent causes of emotional upset. Many people's lives were so crammed with activity that finally coming to the end of a long day was enough to make them wish that the world and everybody in it would just go away for a while. And once people did manage to get through the day, put their feet up, and start to relax, the telephone would ring or the neighbor's dog would start barking--and instantly whatever sense of contentment they may have settled into would be shattered.
Listening to these explanations, I gradually came to realize that the time and effort people spend on accumulating and. maintaining material or "outer wealth" affords very little opportunity to cultivate "inner wealth" – qualities such as compassion, patience, generosity, and equanimity. This imbalance leaves people particularly vulnerable when facing serious issues like divorce, severe illness, and chronic physical or emotional pain. As I've traveled around the world over the past decade teaching courses in meditation and Buddhist philosophy, I've met people who are completely at a loss when it comes to dealing with the challenges life presents them. Some, having lost their jobs, are consumed by a fear of poverty, of losing their homes, and of never being able to get back on their feet. Others struggle with addiction or the burden of dealing with children or other family members suffering from severe emotional or behavioral problems. An astonishing number of people are crippled by depression, self-hatred, and agonizing low self-esteem.
– Mingyur Rinpoche
from the book “Joyful Wisdom”